วิธีดับทุกข์ เพื่อสุขภาพ

สวัสดีครับพี่น้องทุกท่าน  ช่วงนี้มีเหตุกาณ์ไม่ปกติหลายอย่างที่เกิดขึ้นในประเทศไทย  ทำให้หลายคน เกิดความเครียด เกิดความทุกข์ ทำให้สุขภาพจิตแย่ ผมจึงนำบทความเกี่ยวกับวิธีดับทุกข์มาฝากกันครับ 

ธงชาติไทย


 

พุทธศาสนา

พระมหากษัตริย์ไทย
ผมรักในหลวงครับ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ


                                              วิธีดับทุกข์

     ความทุกข์เกิดเพราะใจเกาะเกี่ยว ยึดติดกับอารมณ์ในอดีต และคาดหวังในอนาคต ซึ่งเป็นสาเหตุของความทุกข์ เมื่อต้องการแก้ทุกข์ทางใจ จึงต้องให้ใจกับอารมณ์แยกเป็นคนละส่วน จนเกิดช่องว่างเหมือนล่อนออกจากกัน เมื่อทำได้อย่างนี้ความทุกข์จะหายไปทันที


ทุกข์เพราะจิตใจอ่อนแอไม่เข้มแข็ง


    ขยายความรู้สึกให้กว้างกว่าตัว ให้เพิ่มความมั่นคงเข้าไปในความรู้สึก ความเข้มแข็งจะปรากฏขึ้นมา ระยะแรกจะต้องเพิ่มความมั่นคงบ่อย ๆ เพื่อให้ความมั่นคงอยู่ตัว ให้คอยสังเกตสภาพจิตหลังเพิ่มความมั่นคงได้แล้วด้วย


ทุกข์เพราะเครียดจากความคิดและปัญหาต่าง ๆ


วิธีคิดที่ไม่ก่อให้เกิดทุกข์


- ให้คิดอยู่ในบรรยากาศของความรู้สึก


- ให้ความคิดอยู่นอกบรรยากาศ


- ให้คิดผ่านความว่าง


- ให้คิดอยู่ในความว่าง


- ให้เอาความรู้สึกดูความคิด


ไม่ว่าจะใช้ธรรมข้อใดข้อหนึ่ง ผลที่ออกมาจะต้องเห็นช่องว่างระหว่าอารมณ์ ( คลายอุปาทาน ) ความทุกข์จะสลายไปทันที


ทุกข์เพราะดับความทุกข์ไม่ได้


ให้เอาความรู้สึกซ้อนเข้าไปในความทุกข์ เพียงเท่านี้ความทุกข์ก็จะหายไป


ทุกข์เพราะขาดความสุข


   ให้ระลึกถึงความดีที่เคยกระทำมาแล้ว แม้ความดีที่ระลึกได้จะมีเพียงเล็กน้อยก็ตาม ให้เอาความรู้สึกซ้อนเข้าไปในความดีนั้น บรรยากาศของความดีจะค่อย ๆ ปรากฏขึ้นมา ให้เอาความรู้สึกซ้อนเข้าไปในบรรยากาศที่ปรากฏขึ้นมานั้น บรรยากาศความดีจะปรากฏชัดขึ้น ให้เอาความรู้สึกซ้อนเข้าไปในบรรยากาศความดีที่ชัดขึ้น บรรยากาศความดีจะเปลี่ยนเป็นบรรยากาศความสุข ให้เอาความรู้สึกซ้อนเข้าไปในบรรยากาศความสุข บรรยากาศความสุขจะเปลี่ยนเป็นพลัง ให้นิ่งอยู่ในพลังความสุขพร้อมกับขยายพลังความสุขนั้นมาที่รูป ( ตัว ) จะรู้สึกถึงความสุขที่เกิดขึ้นทั้งกายและใจ เป็นความสุขที่ไม่มีตัวตน เมื่อเจริญบ่อยๆพลังความสุขจะอยู่ตัว



ทุกชาติ....อย่าคลาด


เก็บติดตัวใกล้ใจไว้ทุกครา

                                                             ยามเห็นเธอเป็นทุกข์ใจ




วิธีดูความดี


  ให้ใช้วิธีเปรียบเทียบอดีตกับปัจจุบัน เป็นต้นว่าเดือนนี้กับเดือนก่อน เมื่อจิตมีกำลังให้เปรียบเทียบชั่วโมงต่อชั่วโมง ขณะต่อขณะ จะเกิดความชัดเจนในความดีที่ได้กระทำมาแล้ว และความดีที่ยังไม่ได้ทำ เมื่อทำได้อย่างนี้ชีวิตจะไม่ไร้สาระ


จิตมั่นคงสงบ ไม่หวั่นไหว


 ทุกข์เพราะคนรอบข้างไม่เห็นความดี


    ทั้งนี้เกิดจากขาดบรรยากาศขณะกระทำความดี จัดเป็นความดีแห้งแล้งให้ผลช้า เมื่อต้องการให้คนรอบข้างเห็นความดี จึงต้องมีบรรยากาศในขณะกระทำความดีนั้น ๆ ซึ่งต้องประกอบด้วยความเบา ความอ่อนโยน มีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พูดจาสุภาพเรียบร้อย มีสัมมาคารวะ รู้กาลเทศะ ไม่ยกตนข่มท่าน ความดีชนิดนี้มีกำลังมาก เป็นที่ชื่นชมยินดี ควรแก่การสรรเสริญเยินยอจากผู้ที่ได้พบเห็น เฉกเช่นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมละมุนละไมย่อมขจายกลิ่นไปได้ไกลฉันใดก็ฉันนั้น


                                            ทุกข์ทั้งปวงได้

เจอแต่ความทุกข์ใจ




                                         เปิบข้าวทุกคราวคำ

สิ้น ทุกข์ เมื่อเข้าใจ ทุกข์
 
บทความจาก board.palungjit.com
 
 
                                                

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น